วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2550

10 เหตุผลที่ควรใช้ Gmail

1. ให้พื้นที่ฟรี ถึง 2.8 GB (และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ)
พื้นที่เยอะขนาดนี้ คุณสามารถเก็บอีเมล์ได้ทั้งหมดโดยไม่ต้องลบทิ้งอีกแล้ว
2. รองรับการใช้งานภาษาไทย
เปลี่ยนภาษาบนหน้าจอเป็นอังกฤษหรือไทยตามใจคุณ และแน่นอน Gmail รองรับการส่งข้อความด้วยภาษาไทย
3. หาอีเมล์กี่ครั้งก็เจอ
ด้วยระบบเสิร์ชอัจฉริยะของ Google คุณก็หาอีเมล์หรือแชท ได้เร็วเพียงแค่พริบตา
4. หมดกังวลเรื่องสแปม
Gmail บล็อกสแปมก่อนที่มันจะเข้าอินบ็อกของคุณ
5. คุยกับเพื่อนได้ในทันที
โปรแกรมแชทและอีเมล์ที่ติดตั้งมาพร้อมกัน ทำให้คุณไม่ต้องเปลี่ยนหน้าจอสลับไปมาให้ยุ่งยากอีกแล้ว
6. เช็คเมล์ผ่านมือถือ
อ่าน Gmail บนมือถือได้ง่ายๆ เพียงแค่ใส่ URL http://gmail.com/app บนมือถือของคุณ
7. จัดอีเมลเ์รื่องเดียวกันให้เป็นหนึ่งเดียว
อีเมลเ์์รื่องเดียวกันที่มีการโต้ตอบไปมาหลายครั้งจะถูกจัดเก็บไว้ด้วยกันโดยอัตโนมัติ คุณจึงหาและอ่านอีเมล์ทั้งหมดได้ทันที
8.เซฟอัตโนมัต
Gmail ช่วยเซฟและบันทึกร่างอีเมล์ที่กำลังเขียนอยู่โดยอัตโนมัติ หมดกังวลเรื่องเขียนอีเมล์ค้างไว้แล้วหายไปก่อนส่งออก
9. Labels
จัดระเบียบให้อีเมล์ของคุณแบบง่ายๆ ด้วยการแยกเก็บไว้ใน Label
10. เปลี่ยนมาใช้ Gmail ง่ายแค่คลิ๊ก
โอนถ่ายข้อมูลติดต่อทั้งหมดจาก Outlook, Hotmail, Yahoo! และอีเมล์อื่นๆ เข้ามาใช้ใน Gmail ได้อย่างง่ายดาย

วันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

ทำความรู้จักกับ อีเมล์ (E-Mail) และวิธีการใช้งานในเบื้องต้น

อีเมล์ E Mail หรือ Electronics Mail แปลตรง ๆ ตัวก็คือ ไปรษณีย์อีเลคโทรนิคส์ นั่นเอง ดังนั้น ความหมายง่าย ๆ ของอีเมล์ ก็คือ เป็นเครื่องมือสำหรับติดต่อสื่อสาร ระหว่างกันโดยที่จากเดิม เราอาจจะใช้วิธีการส่งข้อความ ไปหาผู้อื่นด้วยการเขียนเป็นจดหมาย และส่งผ่านทางไปรษณีย์ แต่ในโลกของอินเตอร์เน็ต จะมีบริการที่เรียกว่า อีเมล์ ซึ่งสามารถทำการส่งข้อความต่าง ๆ ไปยังผู้รับปลายทาง (ที่ใช้บริการอีเมล์) ได้ และในปัจจุบันนี้ ยังสามารถทำการแนบไฟล์เอกสาร ของคอมพิวเตอร์ หรือรูปภาพต่าง ๆ ไปอับอีเมล์ได้ด้วย จึงทำให้เพิ่มความสะดวกสบายได้มากขึ้น หากคุณเป็นผู้หนึ่งที่ใช้งานหรือเล่นอินเตอร์เน็ตอยู่แล้ว ก็ควรที่จะหาสมัครใช้บริการอีเมล์ทิ้งไว้สักชื่อหนึ่ง อย่างน้อย ๆ ก็พอที่จะเอาไปอวดใคร ๆ ได้ว่า ฉันก็มีอีเมล์เหมือนกันนะ

โครงสร้างและรูปแบบของชื่ออีเมล์ในเบื้องต้น

ถ้าใครได้เคยเห็นรูปแบบ และชื่อของอีเมล์มาบ้างแล้ว ลองมาทำความเข้าใจกับ ระบบการตั้งชื่ออีเมล์กันก่อน สมมติว่าใครคนหนึ่งบอกอีเมล์ของเขามาว่า somchai@hotmail.com (อ่านออกเสียงว่า สมชาย-แอต-ฮอทเมล์ ดอทคอม) เครื่องหมาย @ จะออกเสียงว่า "แอต" ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ใช้คั่นอยู่ระหว่าง ชื่อและ server ของอีเมล์นั้น ๆ เสมอ ชื่อของ server ที่ลงท้ายนี้ อาจจะเปลี่ยนไปได้ตามชื่อของ server ที่เปิดให้บริการอีเมล์นั้น ๆ ด้วย เช่น อาจจะลงท้ายด้วย @yahoo.com @thailand.com @mail.com หรืออะไรก็ได้ครับที่มีเปิดให้บริการ

ประเภทต่าง ๆ ของอีเมล์ที่มีเปิดให้บริการฟรี

เว็บไซต์ที่ให้บริการ ฟรีอีเมล์ มีอยู่มากมาย แต่ถ้าหากจะแยกประเภทของการใช้งาน สามารถแยกออกได้เป็น 2 แบบดังนี้

Web Base Mail เช่น อีเมล์ของ hotmail.com, chaiyo.com หรือ email.in.th ซึ่งหากต้องการใช้งานอีเมล์เหล่านี้ จะต้องใช้งานโดยผ่านทางหน้าเว็บเพจเท่านั้น ข้อดีคือ สามารถไปใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไหนเปิดอ่านอีเมล์นั้นก็ได้ โดยการเข้าไปที่หน้าเว็บไซต์นั้น ไม่ต้องทำการตั้งค่าต่าง ๆ ให้ยุ่งยาก แต่อาจจะช้าและเสียเวลานาน ในการอ่านหรือรับส่งอีเมล์ ข้อดีของบริการอีเมล์แบบ Web Base Mail คือ ไม่จำเป็นต้องใช้โปรแกรมต่าง ๆ ในการอ่านหรือรับส่งอีเมล์ ทำให้ไม่เปลืองพื้นที่ของฮาร์ดดิสก์

POP Mail เช่น yahoo.com จะมีบริการการอ่านอีเมล์แบบ POP Mail ได้ด้วย ซึ่งโดยส่วนมากก็มักจะใช้งานในลักษณะของ เว็บเมล์ได้ด้วย หากเราเลือกใช้งานอีเมล์ที่มีบริการ POP Mail ก็จะทำให้สามารถตั้งโปรแกรมสำหรับ รับ-ส่งอีเมล์ทั่ว ๆ ไปเช่น Outlook ให้ทำการอ่านอีเมล์แบบนี้ได้ และจะเป็นการสะดวกมากกว่าการใช้งานแบบ Web Base Mail มากครับ แต่ก็ต้องทำการตั้งค่าต่าง ๆ ของโปรแกรมที่ใช้รับ-ส่งอีเมล์ก่อน จึงจะใช้งานได้ โดยที่เมื่อทำการต่อหรือเปิดโปรแกรม สำหรับการอ่านอีเมล์ โปรแกรมจะต้องทำการดาวน์โหลดอีเมล์ทั้งหมดมาเก็บไว้ในฮาร์ดดิสก์ ของเครื่องคอมพิวเตอร์ก่อน ทำให้เปลืองพื้นที่ของฮาร์ดดิสก์ไปบางส่วน แต่ว่าการอ่านจะสามารถทำได้รวดเร็วและสะดวกกว่าการใช้ Web Base Mail

มาทำความรู้จักความหมายย่อ ๆ ของคำที่เกี่ยวกับเมล์กันก่อน
SMTP (Simple Mail Transfer Protocol)

เป็นโปรโตคอลแบบ TCP/IP ที่ใช้ในการรับส่ง email ซึ่งมีข้อจำกัดในเรื่องของความสามารถในการรับส่ง mail ว่ามันสามารถทำได้แบบเป็นคิวเท่านั้น จึงทำให้เกิดโปรโตคอลที่จะมาแก้ไขในเรื่องนี้ ซึ่งก็คือ POP กับ IMAP แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่า SMTP จะมีข้อจำกัดในการรับ mail แต่สำหรับการส่ง mail หลาย ๆ โปรแกรมก็ยังคงนิยมใช้ SMTP ในการส่ง mail อยู่เช่นเดิม

POP (Post Office Protocol)

เป็นโปรโตคอลที่ใช้รับ mail ซึ่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเป็น POP version 3 หรือเรียกสั้น ๆ ว่า POP3 ซึ่งจะมีการทำงานแบบ Store-and-Forward ซึ่งไม่ควรนำไปสับสนกับ SMTP เพราะ POP จะใช้ในการรับ mail เท่านั้น ส่วน SMTP จะใช้ในการส่ง mail

IMAP (Internet Message Access Protocol)

เป็นโปรโตคอลที่ใช้สำหรับรับ mail จาก server ซึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ IMAP version 4 หรือเรียกสั้น ๆ ว่า IMAP4 ซึ่งจะมีความสามารถในการเลือกเฉพาะ header กับ sender หรือสิ่งที่เราต้องการได้ นอกจากนี้ยังสามารถเลือก download เฉพาะ mail ที่เราต้องการได้ด้วย แต่ IMAP ก็ต้องอาศัยการติดต่อกับ server มากกว่า POP

คำศัพท์ต่าง ๆ ที่ใช้ในระบบการ รับ-ส่ง อีเมล์

คำศัพท์แบบมาตราฐานทั่ว ๆ ไป ที่มักจะนิยมใช้ในการใช้งาน อีเมล์ มีดังนี้
Inbox หมายถึง กล่องหรือที่สำหรับเก็บอีเมล์ ที่มีผู้ส่งเข้ามา
Outbox หมายถึง กล่องหรือที่เก็บอีเมล์ ที่กำลังจะส่งออกไปหาผู้อื่น
Sent Items หมายถึง กล่องหรือที่เก็บอีเมล์ ที่เราได้เคยส่งออกไปหาผู้อื่นแล้ว
Delete Items หมายถึง กล่องหรือที่เก็บอีเมล์ ที่ได้ทำการลบทิ้งจาก Inbox แต่ยังเก็บสำรองไว้อยู่
Drafts หมายถึง กล่องหรือที่เก็บอีเมล์ สำหรับใช้เก็บอีเมล์ต่าง ๆ ชั่วคราว ซึ่งอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้
Compose หรือ New Mail จะเป็นการส่งอีเมล์ใหม่ ไปหาผู้อื่น
Forward จะเป็นการส่งต่ออีเมล์ ที่ได้รับมานั้นไปหาผู้อื่น
Reply จะเป็นการตอบอีเมล์ ที่มีผู้ส่งมาถึงเรา
Reply All จะเป็นการตอบอีเมล์ ที่มีผู้ส่งมาถึงเรา และส่งกลับไปให้ทุกคนที่มีชื่ออยู่ในอีเมล์ฉบับนั้น
Subject หมายถึง หัวข้อของอีเมล์ที่เราจะเขียนหรือส่งออกไป
To หมายถึง ชื่อหรืออีเมล์ของผู้ที่เราต้องการส่งอีเมล์ไปหา
CC หมายถึง การส่ง copy อีเมล์นั้น ๆ ไปให้ผู้อื่นที่ต้องการด้วย
BCC หมายถึง การส่ง copy อีเมล์นั้น ๆ ไปให้ผู้อื่นที่ต้องการ และไม่ให้ผู้รับคนอื่นมองเห็นว่า มีการส่งไปให้ในช่อง BCC ด้วย
Attach หมายถึง การแนบไฟล์เอกสาร หรือโปรแกรมต่าง ๆ ไปกับอีเมล์ฉบับนั้น
Address Book หมายถึง สมุดรายชื่อของอีเมล์ต่าง ๆ ที่เราสามารถเก็บไว้ เพื่อให้นำมาใช้งานได้ง่ายขึ้น

ก่อนการใช้งาน อีเมล์ต่าง ๆ ได้ เราจะต้องทำการสมัครใช้บริการกันก่อน ซึ่งก็ต้องอ่านรายละเอียดต่าง ๆ ว่า บริการอีเมล์ที่ไหน สามารถใช้งานในลักษณะใดได้บ้าง เช่น ใช้บริการได้แต่เฉพาะ Web Base Mail หรือใช้งาน POP3 Mail ได้ และนอกจากนี้ ควรที่จะอ่านเงื่อนไขของการให้บริการ ให้เข้าใจก่อนด้วยครับ
เมื่อเข้าใจการทำงาน และการใช้งานในเบื้องต้นกันแล้ว ก็ลองหาสมัครใช้บริการอีเมล์ จากเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่เปิดให้บริการกัน หรือตาม Link นี้ได้เลยครับ นอกจากนี้ ยังมีอีกมากมายครับ ลองค้นหาดูตามพวกเว็บไซต์ search ต่าง



บทความจาก www.com-th.net
ฟรีอีเมล์ของไทย

http://www.narakmail.com : ขนาดพื้นที่ 4 MB
http://www.thaimail.org/ : ขนาดพื้นที่ 6 MB
http://www.freemaild.com : ขนาดพื้นที่ 10 MB
http://www.bangkokmail.com : ขนาดพื้นที่ 25 MB
http://laglai.mail.everyone.net : ขนาดพื้นที่ 25 MB
http://mail.thaiwebhunter.com : ขนาดพื้นที่ 25 MB
http://www.sabuyjai.com : ขนาดพื้นที่ 25 MB
http://mail.thaipost.com : ขนาดพื้นที่ 25 MB
http://www.bkkmail.com
http://www.khonthai.zzn.com
http://www.thaigmail.com
http://www.thaiinbox.com
http://mail.thailand.com/
http://mail.tv5.co.th
http://www.debutmail.com : ขนาดพื้นที่ 30 MB
http://www.maildozy.com/ : ขนาดพื้นที่ 50 MB
http://www.se-ed.net/
http://www.chaiyo.com/ : ขนาดพื้นที่ 100 MB
http://mail.mthai.com : ขนาดพื้นที่ 100 MB
http://www.thaimail.com/ : ขนาดพื้นที่ขั้นต่ำ 100 MB
http://www.mail.th.la : ขนาดพื้นที่ 200 MB ถึง 2 GB
http://mail.sanook.com : ขนาดพื้นที่ 1 GB
http://www.siamza.com/

วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

Gmail คือบริการฟรีอีเมล์ภายใต้การบริหารของ Google

ขั้นตอนการสมัคร Gmail ไม่มีอะไรยุ่งยากมากนัก ทำตามขั้นตอนดังนี้เลยครับ

1. เข้าไปที่ http://www.gmail.com (ภาคภาษาอังกฤษ)



2. คลิกที่ Pick a name จะเป็นแบบฟอร์มกรอกรายละเอียดของเรา



พิมพ์กรอกรายละเอียดตามนี้ครับ (ใช้ภาษาอังกฤษ)
First name : ชื่อ
Last name : นามสกุล
Desired Login name : ชื่ออีเมล์ที่ต้องการใช้ กรอกแล้วคลิก check availability! เพื่อหาชื่อที่ไม่ซ้ำกับคนอื่นที่ลงทะเบียนเอาไว้แล้ว
Choose a password : กรอกรหัสผ่านที่เราต้องการ
Re-enter password : กรอกรหัสเดิมอีกครั้ง
Security Question : เลือกคำถามของระบบความปลอดภัย กรณีลืม password
Answer : คำตอบเพื่อตรวจสอบ
Secondary email : อีเมล์สำรองของเรา กรณีเกิดปัญหา หรือลืม password
Location : ตำแหน่งที่อยู่ เลือกเป็น Thailand
Word Verification : พิมพ์อักษรที่เห็นในรูปด้านล่าง
Terms of Service : ข้อตกลงด้านการบริการ
I accept.Create my account : คลิกยอมรับข้อตกลงเพื่อเปิดหน้าบัญชีอีเมล์ของเรา

3. ทำความรู้จักกับ Gmail



4. คลิกที่ I'm ready - show me my account เพื่อไปยังหน้าบัญชีของเรา



5. จบขั้นตอนการสมัคร Gmail ภาคภาษาอังกฤษ

สำหรับผูู้ที่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษ นี่เลยครับภาคภาษาไทย

1. คลิกที่ Gmail



ถ้าเข้าแล้วหน้าเว็บยังเป็นภาษาอังกฤษ เนื่องจาก Gmail จะมีระบบจดจำการใช้งาน ให้ปรับเปลี่ยนตามนี้ครับ คลิกที่ Pick a name



หรือคลิกที่ Sign up for Gmail



ในหน้ากรอกรายละเอียดเพื่อสร้างบัญชีของเรา ให้ปรับเปลี่ยนที่ Change Language เป็นภาษาไทย



2. คลิกที่ ลงทะเบียนใช้ Gmail จะเป็นแบบฟอร์มกรอกรายละเอียดของเรา



3. ทำความรู้จักกับ Gmail



4. คลิกที่ ฉันพร้อมแล้ว-ไหนล่ะบัญชีของฉัน



5. จบขั้นตอนการสมัคร Gmail ภาคภาษาไทย

วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

ฟรีอีเมล์ของต่างประเทศ

http://www.graffiti.net/ : ขนาดพื้นที่ 100 MB
http://mail.excite.com/
http://mail.lycos.com/ : ขนาดพื้นที่ 3 GB
http://www.ezy-mail.com/
http://www.usa.net/
http://www.icqmail.com/
http://www.operamail.com/ : ขนาดพื้นที่ 3 MB
http://www.dontgotmail.com/
http://www.langoo.com/
http://www.hotmail.com/ : ขนาดพื้นที่ 2 GB
http://mail.yahoo.com/ : ไม่จำกัดขนาดพื้นที่
http://gmail.google.com : มากกว่า 2.8 GB

วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

ลูกเล่นของ Gmail


1. เทคนิค Short Cut

ในหน้าบัญชี Gmail ของเรา เพียงกดปุ่ม c (Compose Mail) บนคีย์บอร์ด เหมือนกับปุ่มลัดบนคีย์บอร์ดของโปรแกรมอื่นๆ หน้าจอเขียนเมล์จะปรากฏขึ้นมา แต่ต้องไปตั้งค่าในหน้า Settings ก่อน ในเว็บเพจ Gmail จะมีสคริปต์ดักจับการเปลี่ยนแปลงของปุ่มคีย์บอร์ดไว้อย่างนี้เยอะมากๆ เลย

วิธีตั้งค่า

A. คลิกคำว่า "การตั้งค่า"



ฺB. ในหน้าการตั้งค่า ไปที่หมวดคีย์ลัด แล้วกดเปิดคีย์ลัด



ในหน้าบัญชี Gmail ของเรา กด c ที่แป้นคีย์บอร์ด



Gmail จะเปิดหน้าเขียนเมล์ขึ้นมา



ตัวอย่างคีย์ลัดอื่นๆ

j : เลื่อนลำดับลง
k : เลื่อนลำดับขึ้น
s : เปิดหรือปิดเครื่องหมายติดดาว
x : ใส่หรือไม่ใส่เครื่องหมายถูกหน้า E-mail ที่ได้รับ


2. การจดจำ E-mail Address

Gmail จะจดจำอีเมล์แอดเดรสของเจ้าของจดหมายทุกคน และขึ้นมาเป็นกรอบให้เลือกอย่างง่ายดาย เพียงแค่ใช้เม้าส์ชี้ไปที่หัวข้อจดหมาย (หมายเลข 1) ต่างกับ Hotmail ที่ต้องเลือกเอาจากสมุดที่อยู่เอาเอง


3. ใช้ Snippets (หมายเลข 2)
โดยการแสดงเนื้อหาบางส่วนของจดหมายเป็นตัวสีเทาๆต่อจาก Subject ให้ด้วย เพื่อที่จะได้นึกออกว่าจดหมายฉบับนี้เขียนเรื่องอะไร


4. การต่อ Thread ของเมล์
จากเดิมถ้าเราตอบเมล์กับคนอื่นกลับไปกลับมาเรื่อยๆ เราจะเห็นเมล์แต่ละฉบับแยกจากกัน และอาจจะมีเส้นแสดงความสัมพันธ์ว่าฉบับนี้ตอบกลับฉบับไหน แต่ใน Gmail จะเปลี่ยนไปเป็นเมล์ที่ตอบกลับไปมานั้นจะรวมเป็นฉบับเดียวกัน ให้ความรู้สึกเหมือนเรากำลังคุยกับผู้ส่งเมล์มาหาเราอยู่มากกว่า